นอกจากสตรีทฟู้ดไทยจะไปดังไกลในต่างแดนแล้ว ยังมีผู้ประกอบการไทยหลายคนที่สามารถ “ยกระดับอาหารพื้นบ้าน” ให้เป็นธุรกิจที่เติบโตขึ้นมาอย่างเข้มแข็ง ซึ่งวันนี้คอลัมน์นี้มีกรณีศึกษานำมาฝากกัน โดยเป็นกรณีของ ภาคภูมิ หอมสุวรรณ ผู้ประกอบการ “ธุรกิจอาหารพื้นบ้าน” ส่วนจะมีแง่มุมอย่างไร ต้องมาติดตามกันดู…

ภาคภูมิ ผู้บริหารไทยอินโนฟู้ด เล่าว่า ปี 2564 ที่ผ่านมามียอดขายผ่านร้านสะดวกซื้อที่เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการขายสินค้าสูงถึง 70 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม แต่การจะก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้นั้น เขายอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย หากต้องอาศัยความมุ่งมั่นตั้งใจจริง โดยเขาได้เล่าว่า ย้อนกลับไปกว่า 40 ปีก่อน ครอบครัวเริ่มทำธุรกิจผลิตแหนม และได้รับการตอบรับจนเป็นที่รู้จักดีจนถึงปัจจุบัน แต่เมื่อตนเข้ามาช่วยธุรกิจ ก็มองว่าแหนมเป็นอาหารพื้นบ้านที่หาซื้อได้จากตลาดสดเท่านั้น ทำให้ผู้บริโภคที่ไม่มีเวลาไม่มีโอกาสได้กิน จึงพูดคุยกับเซเว่นว่าต้องการนำสินค้าไปวางจำหน่าย  โดยได้สร้างแบรนด์ใหม่ให้ตรงกลุ่มลูกค้าจนเกิดเป็นแบรนด์สุทธิลักษณ์ ซึ่งรสชาติยังคงเหมือนเดิม แต่ได้นำนวัตกรรมมาใช้เพิ่มขึ้นคือเทคโนโลยีฉายรังสี โดยเป็นเจ้าแรกที่นำมาใช้ถนอมอาหาร ซึ่งนอกจากช่วยฆ่าเชื้อโรคในอาหารแล้ว ยังช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์ให้เก็บได้นานขึ้นถึง  2 เดือนอีกด้วยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

อย่างไรก็ดี แม้จะหาช่องว่างทางการตลาดเจอ จนพัฒนาสินค้าให้มีความแตกต่าง แต่ก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จทันที โดยภาคภูมิบอกว่า การตอบรับของตลาดขณะนั้นยังไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ โดยช่วงแรกขายได้ 2-3 พันชิ้นต่อวันเท่านั้น จึงกลับมาคิดว่าทำไมขายได้น้อย จึงลองไปปรึกษาเซเว่นและได้รับคำแนะนำให้ปรับสีแพคเกจจิ้งใหม่ จากชมพูมาเป็นแดงเพื่อให้สินค้าโดดเด่น และเปลี่ยนวิธีบรรจุจากห่อละ 10 ชิ้น เป็น 12 ชิ้น หลังจากนั้นยอดขายก็เพิ่มขึ้นในเวลาไม่ถึงเดือน ซึ่งเขาได้ถอดรหัสเรื่องนี้ว่า ต้องมองปัญหาเป็นบทเรียนธุรกิจ และ ต้องสนุกกับสิ่งที่ทำ โดยไม่คิดว่าต้องอดทนกับสิ่งที่ทำอยู่ ที่สำคัญอย่าตีกรอบกดดันตัวเอง เพราะจะอึดอัดจนไม่อยากไปต่อ นี่เป็นคำแนะนำจากเอสเอ็มอีรายนี้ ที่มีหลักคิดน่าสนใจ และน่าที่ผู้ประกอบการอื่น ๆ ก็สามารถนำเอาแนวคิดนี้ไปปรับใช้ได้.คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ [email protected]